ในปีนี้ Frost & Sullivan ได้มอบรางวัลให้กับ ไอเอสเอส ประเทศไทยในสาขา ‘Thailand Facilities Management Competitive Strategy Innovation and Leadership Award’
เป็นรางวัลที่มอบให้กับบริษัททั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพื่อยืนยันถึงความสำเร็จที่โดดเด่น และประสิทธิภาพการบริการที่เหนือกว่า ในด้านต่างๆ อาทิ ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีการบริการลูกค้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมได้เปรียบเทียบผู้เข้าร่วมในตลาดและวัดผลการดำเนินงานโดยการสัมภาษณ์เจาะลึก การวิเคราะห์ข้อมูล และการวิจัยเพื่อหาธุรกิจที่มีแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม
คุณอบิจิต ดัตต้า ประธานกรรมการบริหารบริษัทไอเอสเอส (ประเทศไทย) ได้กล่าวไว้ดังนี้:
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลในปี 2017 นี้สำหรับกลยุทธ์ด้านนวัตกรรม และภาวะผู้นำ ปี 2016 ที่ผ่านมาเป็นหนึ่งในปีที่ยากลำบากที่สุดธุรกิจของเราถูกท้าทายโดยปัจจัยภายนอกหลายประการ ถึงอย่างไรก็ตามเราไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในการเอาชนะความท้าทายเหล่านั้น แต่เรายังได้เริ่มโครงการต่างๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความแตกต่างให้กับบริษัทของเราในระยะยาว ในช่วงปีที่ผ่านมาเราเริ่มต้นการส่งมอบงานบริการอาคารแบบครบวงจร เราเพิ่มขีดความสามารถในด้านการบำรุงรักษาอาคารและงานวิศวกรรม ซึ่งตอนนี้เราสามารถส่งมอบงานบริการแบบครบวงจรได้อย่างเต็มความสามารถ เรายังคงขยายการส่งมอบงานบริการครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้เราสามารถให้บริการลูกค้าของเราได้ดีที่สุด เราปรับปรุงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานและการรักษาบุคลากร รวมถึงการพัฒนาภาวะผู้นำ การจัดการเรียนรู้ตลอดจน สุขอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน
ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ไอเอสเอสได้รับการยอมรับติดต่อกันเป็นปีที่ 3 รางวัลนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของพนักงาน ความมุ่งมั่นของทีมผู้บริหารของเรา ตลอดจนการได้รับความสนับสนุนและความเชื่อมั่นจากลูกค้าของเรา และผมอยากจะขอบคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้”
Janice Wung, Industry Analyst Energy & Environment, Frost & Sullivan ได้กล่าวไว้ดังนี้:
“ไอเอสเอสเป็นผู้ให้บริการด้านงานบริหารอาคารแบบครบวงจรที่สำคัญในประเทศไทย บริษัทได้มีการจัดการเพื่อเอาชนะความท้าทายในปี พ.ศ. 2559 และประสบความสำเร็จสามารถเพิ่มรายได้และรักษาสัญญาเดิม ทำให้ไอเอสเอส เป็นผู้ให้บริการด้านการบริหารอาคารแบบครบวงจรที่ดีที่สุดในประเทศไทย
ความแตกต่างด้านการแข่งขันของไอเอสเอสคือการเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า และสะท้อนให้เห็นถึงอัตราการรักษาลูกค้าโดยเฉลี่ยที่มากกว่า 95% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กลยุทธ์ที่สร้างคุณค่าได้อย่างโดดเด่นเพื่อการส่งมอบงานบริการถึงผู้ใช้บริการปลายทางที่สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ไอเอสเอสในประเทศไทย”